แนวรุกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยิง 1 จ่าย 1 ในครึ่งแรก และโดนไล่ออกในครึ่งหลัง ก่อนสุดท้ายทัพเซเลเซาจะคว้าแชมป์อเมริกาใต้ได้ในบ้านตัวเอง
LSM99ghot โคปา อเมริกา 2019 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามมาราคานา ในเมืองริโอ เด จาเนโร เป็นการพบกันระหว่างเจ้าภาพอย่างบราซิล ดวลกับ เปรู ที่หลุดเข้ามาถึงวันสุดท้ายแบบเหนือความคาดหมาด
ติเต้ กุนซือทัพเซเลเซา ตัดสินใจยึด 11 คนแรกชุดเดิมจากรอบรองชนะเลิศลงเล่นทั้งหมดในระบบ 4-2-3-1 โดยวาง โรแบรโต้ ฟีร์มิโน ค้ำหน้าเป้าคอยทำเกมรุกร่วมกับ กาเบรียล เชซุส, ฟิลิปป์ คูตินโญ และ เอแวร์ตอน โซอาเรส
ด้านโลส อินคาสของ ริคาร์โด้ กาเรกา เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งเคยแพ้เจ้าภาพในรอบแบ่งกลุ่มก่อนหน้านี้แบบขาดลอยถึง 0-5 นำทัพโดยกองหน้ากัปตันทีมจอมเก๋าวัย 35 ปีอย่าง เปาโล เกร์เรโร เป็นตัวความหวังในเกมรุก
เริ่มเกมมาเป็นบราซิลครองบอลบุกได้เหนือกว่า จนกระทั่งนาทีที่ 15 ก็จัดการพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เชซุส เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ เอแวร์ตอน แปด้วยขวาเน้นๆตุงตาข่าย ส่งให้ทัพเซเลเซาออกนำ 1-0
ทว่าในนาทีที่ 44 เปรูมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ คริสเตียน คูเอบา เตะบอลไปโดนแขนของ ธิอาโก้ ซิลวา ซึ่งล้มตัวพยายามบล็อคลูก โดยผู้ตัดสินมีการเช็คภาพจาก VAR เพื่อความถูกต้องด้วย ก่อนยืนยันชี้ขาดเหมือนเดิม และเป็น เกร์เรโร รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้โลส อินคาสตีเสมอ 1-1
แต่ถัดมาในช่วงทดเวลานาทีที่ 45+3 บราซิลก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ อาร์ตูร์ ไหลบอลให้ เชซุส จับแล้วแปด้วยขวาอย่างเฉียบคม ช่วยให้เจ้าภาพนำอีกรอบ 2-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอรนี้
ครึ่งหลังกลายเป็นว่าบราซิลต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ เชซุส กระโดดแย่งโหม่งแล้วไปกระแทกใส่ คาร์ลอส ซามบราโน ล้มลงไป ก่อนจะโดนผู้ตัดสินให้ใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออก
แม้จะเสียเปรียบตัวผู้เล่น แต่เจ้าภาพกลับมาได้จุดโทษบ้างเช่นกัน ในนาทีที่ 90 จากจังหวะที่ เอแวร์ตอน ไปโดน ซามบราโน กระแทกล้มลงไป โดยผู้ตัดสินมีการเช็คภาพจาก VAR เพื่อความถูกต้องด้วย ก่อนยืนยันชี้ขาดเหมือนเดิม และเป็น ริชาร์ลิซอน รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งให้ทัพเซเลเซานำห่าง 3-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นบราซิลเอาชนะเปรูไป 3-1 ผงาดคว้าแชมป์โคปา อเมริกาได้เป็นสมัยที่ 9 และยังยุติการรอคอยยาวนานถึง 12 ปี จากการได้แชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2007 ลงได้สำเร็จด้วย
ขอขอบคุณภาพและข้อมูล จาก goal.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น